สสส. จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติ กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ พ.ศ. 2544 มีหน้าที่หลักในการสนับสนุน ขบวนการสร้างเสริมสุขภาพในประเทศไทย ทำงาน สนับสนุนและร่วมมือ กับหน่วยงานและภาคีเครือข่ายต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคมมหาวิทยาลัย และชุมชนท้องถิ่น ผ่านยุทธศาสตร์ไตรพลัง ที่ประกอบด้วย พลังปัญญา พลังสังคม และพลังนโยบาย ทำงานสอดประสานร่วมกันขับเคลื่อนขบวนการสร้างเสริมสุขภาพ ให้ทุกคนในสังคมไทยมีสุขภาพดีครบทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ กาย จิต ปัญญา และสังคม

เป็นองค์กรภาคประชาสังคมขนาดเล็ก เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2564 ตามคำแนะนำของ ศ.เกียรติคุณ นพ.ประเวศ วะสี เพื่อทำงานจัดการความรู้ สื่อสาร ประสานงาน และเชื่อมโยงเครือข่ายการทำงานกับบุคคลและองค์กรต่างๆ ในประเด็นสุขภาวะทางปัญญา เพื่อขับเคลื่อนสุขภาวะทางปัญญาในสังคม ผ่านการทำงาน อาทิเช่น การจัดงานประชุมวิชาการเครือข่ายความรู้สุขภาวะทางปัญญา, การจัดทำร่างสาระหมวดสุขภาพทางปัญญา ในธรรมนูญว่าด้วยระบบสุขภาพแห่งชาติ, แผนยุทธศาสตร์การสร้างเสริมสุขภาวะทางปัญญา, การพัฒนาองค์ความรู้เชิงวิชาการเกี่ยวกับสุขภาวะทางปัญญา ฯลฯ เป็นแหล่งรวบรวมความรู้เกี่ยวกับสุขภาวะทางปัญญาเพื่อเผยแพร่ ผ่านเวบไซต์ Jitwiwat.com, Facebook : จิตวิวัฒน์-New consciousness และ Youtube : Jitwiwat Media

ด้วยความหวังว่าจะเป็นแสงสว่างจุดเล็กๆ ที่ทำงานเชื่อมโยงกับแสงสว่างอื่นๆ ทั้งหมด และกระพริบแสงแห่งจิตสำนึกใหม่ร่วมกัน

สุขภาวะทางปัญญาเป็นสิ่งที่ทุกคนเข้าถึงได้ง่าย ด้วยช่องทางที่ต่างกันไปตามวิถีชีวิตและความสนใจของแต่ละคน ความสุขประเทศไทยเป็นเหมือนประตู (portal) ที่ให้คนมารู้จักสุขภาวะทางปัญญา เป็นแหล่งรวบรวมความรู้ how-to และกิจกรรมรูปธรรมมากมาย เว็บ HappinessisThailand.com นำเสนอเส้นทางพัฒนาจิตสำหรับทุกคน ไม่ว่าจากความสัมพันธ์ งานจิตอาสา การสัมผัสธรรมชาติ การเรียนรู้ การทำงาน การเคลื่อนไหว ศิลปะ หรือการภาวนา รวมทั้งกิจกรรมหลากหลายให้เข้าร่วมเรียนรู้ พร้อมทั้งหนังสือและสื่อร่วมสมัยในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงความสุขจากการเข้าใจตนเอง เชื่อมโยงกับโลก และค้นพบความสุขในแนวทางของตัวเราเอง เพราะเรามั่นใจว่า “ใครๆ ก็พัฒนาจิตได้”

ผู้นำในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรรายแรกของประเทศไทย ที่มีแพลตฟอร์มด้านอสังหาริมทรัพย์ครอบคลุม 3 ประเภท ได้แก่ ที่อยู่อาศัย อุตสาหกรรม และพาณิชยกรรม โดยมุ่งเน้นการ “สร้างสรรค์พื้นที่ ให้ประสบการณ์ที่ดีคงอยู่” ที่พร้อมสร้างแรงบันดาลใจ และส่งต่อคุณค่าการใช้ชีวิตให้กับผู้คน

ให้บริการระบบฝากเวลาและแนะนำงานอาสา JitArsaBank.com สำหรับทุกคนที่หาโอกาสในการใช้เวลาเพื่อผู้อื่นและผู้จัดงาน ที่ต้องการอาสาสมัคร เรามีความเชื่อ 3 ประการ
1.เวลาเป็นทรัพยากรที่มีค่ามากที่สุดในชีวิตทุกคนได้รับมาอย่างเท่าเทียมกันในแต่ละวัน ไม่มีใครได้มากหรือได้น้อยกว่าใคร
2) งานอาสาคืองานพัฒนาจิตสามารถทำให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องทั้งผู้จัดงานและอาสาสมัครมีความสุขจากการได้รู้จักเข้าใจตนเอง เข้าใจผู้อื่นเห็นความเชื่อมโยงกับสังคมและโลก
และ 3) งานอาสาเป็นหนึ่งในช่องทางที่ง่ายที่สุดในการพัฒนาจิต เพราะเราทุกคนมีสิ่งที่เราให้คุณค่าและปรารถนาจะทำให้ดีขึ้นและเราสามารถทำงานอาสาได้ทุกที่ทุกเวลา

องค์กรที่ทำงานด้านการจัดการเรียนการสอน การจัดกระบวนการเรียนรู้ การทำวิจัยและบริการวิชาการ ในแนวทางจิตตปัญญาศึกษา เพื่อสร้างสังคมแห่งการตื่นรู้ ผ่านการพัฒนามิติภายใน และการพัฒนาศักยภาพความเป็นมนุษย์ บนฐานการเรียนรู้ในแนวทางจิตตปัญญาศึกษา หรือการเรียนรู้ด้วยใจอย่างใคร่ครวญ หล่อหลอมให้คนเกิดการตระหนักรู้ และเกิดการเปลี่ยนแปลงจากภายในตนเอง เข้าถึงความดี ความจริง ความงาม นำไปสู่การดำเนินชีวิต และการทำงานอย่างมีความสุข เกิดความมั่นคงจากภายในอย่างแท้จริง

โครงการพัฒนาศักยภาพครูและขบวนการขับเคลื่อนการศึกษา เพื่อมุ่งหวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับฐานรากจากมิติภายในของคนเป็นครู ไปสู่การรวมกลุ่มในระดับเครือข่ายพื้นที่ และผลักดันให้ในระดับนโยบาย ผ่านการทำงานจริงของเครือข่ายครู เพื่อให้เกิดการศึกษาที่มีความสุขและมีความหมายต่อชีวิตครูและนักเรียน โดยโครงการได้รับการสนับสนุนจาก กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ภายใต้คณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

สวนโมกข์กรุงเทพ หรือ หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ เป็นพื้นที่สำหรับ “ออกกำลังใจ” ที่เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้ และฝึกฝนจิตใจ ผ่านกิจกรรมที่ช่วยเสริมสร้างสติ สมาธิ และปัญญา เพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงแค่ศูนย์ศึกษาธรรมะ แต่ยังเป็น “สนามฝึกใจ” ที่ช่วยให้เรากลับมาเชื่อมโยงกับตัวเอง ผ่านรูปแบบกิจกรรมที่หลากหลาย

สวนโมกข์กรุงเทพเป็นแหล่งรวบรวม อนุรักษ์ และ เผยแพร่มรดกธรรม ที่ท่านพุทธทาสภิกขุมอบไว้ให้กับคนรุ่นหลัง ตามปณิธาน 3 ประการของพุทธทาส ได้แก่

(1) การเข้าถึงหัวใจของศาสนาของตน
(2) การทำความเข้าระหว่างศาสนา
(3) ออกมาเสียจากอำนาจวัตถุนิยม

สำหรับคนรุ่นใหม่ที่ต้องการฝึกใจให้แข็งแรง สงบ และพร้อมเผชิญโลกอย่างมีสติ สวนโมกข์กรุงเทพคือพื้นที่ที่เปิดกว้างให้ทุกคนมาออกกำลังใจ และค้นพบความหมายของชีวิตในแบบที่ใช่สำหรับตัวเอง

เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร เราสนับสนุนให้บุคคลและชุมชน มีความพร้อมด้านความรู้ ทักษะ และทัศนคติ นำไปสู่ความสามารถในการรับมือกับความทุกข์ จากความเจ็บป่วย การดูแล การตาย และความสูญเสีย บนพื้นฐานของความกรุณา การมีส่วนร่วม การคำนึงถึงระบบนิเวศของชุมชน และความเป็นธรรมทางสังคม โดยผลิตงานวิจัย นวัตกรรม เครื่องมือการพัฒนา และการขับเคลื่อนนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการอยู่ดีตายดี รวมถึงการสร้างและพัฒนาเครือข่ายชุมชนกรุณาในประเทศไทย

กลุ่มคนที่มีความรู้ ประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ ในการดูแลการเจ็บป่วย การตาย การบริบาล และความสูญเสีย เราผลักดันสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการอยู่ดีและตายดี โดยการออกแบบเครื่องมือการเรียนรู้การดูแลผู้ป่วยระยะท้าย อาทิ สมุดเบาใจ เกมไพ่ไขชีวิต ไพ่ฤดูฝน การ์ดแคร์คลับ การ์ดประตูใจ ฯลฯ, จัดฝึกอบรมบุคลากรในองค์กรและชุมชน ด้านการดูแลแบบประคับประคองภาคประชาชน การวางแผนดูแลล่วงหน้า, สนับสนุนแนวคิดและปฏิบัติการ ชุมชนกรุณาเพื่อการอยู่และตายดี รวมทั้งผลักดันกฎหมาย นโยบาย และวัฒนธรรม ที่สนับสนุนการดูแลความเจ็บป่วย ความตาย และความสูญเสีย

วิสาหกิจเพื่อสังคมที่ร่วมสร้างสังคมไทยให้ “อยู่ดี – ตายดี” เราคือ “เพื่อนชีวิต” ในทุกช่วงเวลาของการอยู่อย่างมีคุณค่าและมีความหมาย เราพร้อมเป็น “เพื่อนใจ” เชื่อมโยงทุกความสัมพันธ์ โอบกอดในวันจากลา และเราจะเป็น “เพื่อนตาย” ที่อยู่เคียงข้างจนถึงลมหายใจสุดท้าย มาเป็นเพื่อนกับชีวามิตร เพื่อการเดินทางในทุกช่วงชีวิตอย่างมีคุณภาพ มีความสุข สมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

นิตยสารสารคดีมีจุดยืนในการ “ให้ปัญญาและความรู้” เพื่อสร้างเข้าใจในความหลากหลายของมนุษย์ สังคมและธรรมชาติ พร้อมกับสร้างนักสื่อสารผ่านการจัดค่ายสารคดี “สร้างคนบันทึกสังคม” สร้างนักเขียน ช่างภาพ และวิดีโอครีเอเตอร์ ระดับเยาวชนนักศึกษา เพื่อมุ่งสู่การเป็นนักสารคดีมืออาชีพ ผ่านการเรียนรู้จากประสบการณ์ลงพื้นที่ทำงานจริง และการชี้แนะเข้มข้นจากกูรูนักทำสารคดี เพื่อสื่อสารประเด็นสุขภาวะในสังคมไทย และพัฒนาภายในตนเองให้เป็นนักสื่อสารสุขภาวะ และจัดค่ายนักเล่าความสุข อบรมการสร้างสื่อหลายประเภท ที่ชวนทุกคนมาค้นหาความหมายของความสุข ผ่านการทำงานสร้างสรรค์ และร่วมแบ่งปันเล่าเรื่องความสุข ซึ่งอาจช่วยให้ใครอีกหลายๆ คนได้พบความสุขเช่นกัน

กลุ่มคนรักธรรมชาติที่คาดหวังให้การสัมผัสธรรมชาติ ช่วยส่งเสริมความเข้าใจในธรรมชาติและความเข้าใจภายในตนเอง ภายใต้การดำเนินงานของนิตยสารสารคดี พัฒนากิจกรรมขึ้นมาหลากหลายรูปแบบ ทั้งการติดเครื่องมือสัมผัสธรรมชาติผ่านประสาทสัมผัสต่างๆ กิจกรรมบันทึกธรรมชาติ (Nature Journaling) กิจกรรมดูดาว อาบป่า ฯลฯ ในพื้นที่สวนสาธารณะอย่างสม่ำเสมอ และพื้นที่ธรรมชาติในต่างจังหวัด และยังขยายผลเข้าถึงอาจารย์และนักศึกษาในมหาวิทยาลัย ผ่านกิจกรรม Parkใจ Go Campus เพื่อช่วยให้นักศึกษามีพื้นที่ปลอดภัย ในการดูแลจิตใจผ่านกระบวนการกลุ่ม และถ่ายทอดให้อาจารย์ได้นำเครื่องมือของ Parkใจ ไปประยุกต์ใช้ในกระบวนการเรียนการสอน

องค์กรที่เปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่ที่สนใจการทำงานขับเคลื่อน การเปลี่ยนแปลงสังคมผ่านงานอาสาสมัคร ทั้งในระดับประเทศและภูมิภาค มอส. เรามองตนเองเป็นเหมือน สะพานสายรุ้งทางสังคม ที่เชื่อมโยงคนรุ่นใหม่เข้ามาเป็นพลังสำคัญของสังคม ได้เปิดโลกทัศน์ตนเอง ให้มีโอกาสสัมผัส เรียนรู้ เข้าใจ และแบ่งปันประสบการณ์ ความคิด ชีวิต ผ่านปฏิบัติการสนามจริงในสังคม โดยกระบวนการพัฒนาศักยภาพ การเป็นอาสาสมัครเพื่อสังคมในหลายมิติ เข้าใจความแตกต่างหลากหลาย นำไปสู่หัวใจที่มุ่งมั่นที่จะพัฒนาตนเอง ให้เป็นคนที่มีความสามารถในการคิด วิเคราะห์ เชื่อมโยงตนเองไปสู่ผู้อื่น ทั้งในด้านชีวิต ชุมชน สังคม โลก ธรรมชาติและสรรพสิ่ง ให้มีหัวใจแห่งความมุ่งมั่นสร้างการเปลี่ยนแปลง

เป็นโครงการที่เปิดพื้นที่ให้คนทั่วไปได้เข้ามาทำงานอาสาสมัคร ผ่านกิจกรรมต่างๆ “พลเมืองอาสา” เชื่อมั่นในพลังพลเมืองร่วมสร้างสังคม เชื่อว่าพลเมืองทุกคนมีศักยภาพ มีความหลากหลาย มีความสามารถ รวมถึงมีจิตปรารถนาดีต่อผู้อื่นและสังคม โครงการ “พลเมืองอาสา” จึ่งสร้างพื้นที่ให้คนเหล่านั้น ได้มาใช้ศักยภาพเพื่อร่วมพัฒนา เปลี่ยนแปลง และร่วมสร้างสังคมไปด้วยกัน เราเชื่อว่าพลเมืองที่มีความปรารถนาดีนี้สามารถเป็นอาสาได้ทุกคน แต่ไม่รู้ว่าจะไปเริ่มที่ไหน อย่างไร กับใคร “พลเมืองอาสา” จึงเป็นตัวกลางประสานให้เกิดงานอาสารูปแบบต่างๆ เปิดพื้นที่และเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไป ทุกเพศ วัย ทุกสาขาอาชีพ ที่ต้องการทำงานอาสาสมัคร ให้ได้ใช้เวลาช่วงสั้นๆ ตั้งแต่ ไม่กี่ชั่วโมง เป็นต้นไป หรือเป็นวัน เป็นอาทิตย์ หรือเป็นเดือน รวมทั้งสร้างพื้นที่ ประเด็นงานอาสาที่หลากหลาย ให้อาสาสมัครเข้าร่วมตามความชอบ ความถนัด ของตนเอง โดยจะมีงานอาสา ทั้งในสถานการณ์ปกติ หรือสถานการณ์ภัยพิบัติ

เป็นโครงการมีความมุ่งหวังให้คนรุ่นใหม่ ที่มุ่งมั่นจะกลับไปทำงานในชุมชน/บ้านเกิดของตนเอง หรือมีความตั้งใจที่จะตั้งถิ่นฐานในภูมิลำเนาประเทศไทย เพื่อสร้างฐานยังชีพ และมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชน ไปพร้อมที่จะพัฒนาตนเอง โดยมีวาระการเป็นอาสาสมัครเต็มเวลา 1 ปี เกิดแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ชุมชนในภาคชนบทหรือภาคเกษตรกรรม โดยคนรุ่นใหม่ที่พร้อมหวนคืนสู่รากฐานของชีวิต คือการ “กลับบ้าน” พร้อมด้วยแนวคิดและประสบการณ์ใหม่ๆ ที่จะเป็นปัจจัยสำคัญต่อทิศทางการพัฒนาชุมชนของตนเอง อาทิ ด้านเกษตรอินทรีย์ ศิลปะ วัฒนธรรม ภูมิปัญญา การท่องเที่ยวชุมชน ฯ ควบคู่ไปกับการสร้างฐานเศรษฐกิจของตัวเอง โดยโครงการมีเป้าหมายหลัก คือการได้เห็นคนรุ่นใหม่เล็งเห็นถึง คุณค่าของชุมชน และกลับบ้านอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถอยู่รอดด้วยการสร้างความมั่นคงให้กับชีวิต ในขณะเดียวกันก็ยังอยู่ร่วมกับชุมชนเพื่อเรียนรู้ แก้ไขปัญหา เป็นพลังสำคัญในการพัฒนาชุมชนของตนเองอย่างยั่งยืน

เป็นองค์กรไม่แสวงกำไรซึ่งทำหน้าที่สร้างความรู้ ความเข้าใจ ที่ถูกต้องเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา และส่งเสริมการนำหลักพุทธธรรม มาประยุกต์ใช้ในทางสร้างสรรค์ เหมาะสมกับยุคสมัย เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อวิถีชีวิตของผู้คน ตลอดจนสังคมโดยรวม สื่อสารผ่านกิจกรรมที่เน้นการประยุกต์หลักธรรม อาทิ งานอาสาสมัครในระบบโรงพยาบาล : อาสาอำนวยความสะดวกผู้ป่วยในโรงพยาบาล 5 แห่ง คือ สถาบันประสาทวิทยา โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลตากสิน โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี สถาบันมะเร็งแห่งชาติ และ อาสาข้างเตียง 2 แห่ง คือ สถาบันประสาทวิทยา โรงพยาบาลราชวิถี งานปันกันอิ่ม มีเครือข่ายร้านค้าปันกันอิ่ม 68 ร้าน 5 ชุมชน 3 ศูนย์อาหารที่โรงพยาบาล งานพัฒนาจิตใจ(ปลุกสติ) มีเครื่องมือช่วยในการฝึกสติในชีวิตประจำวัน คือ การ์ดเติมสุข

พื้นที่เรียนรู้เครื่องมือพัฒนาสุขภาวะทางปัญญาเพื่อการเติบโตจากภายใน โดยร่วมกับเครือข่ายสุขภาวะทางปัญญา พัฒนากิจกรรมการเรียนรู้หลากหลายรูปแบบ ที่เข้าถึงง่าย (Simply)และอยู่ในวิถีชีวิต (Life Style) เพื่อผู้เริ่มต้นแสวงหาวิธีการดูแลชีวิตจิตใจของตนเอง ได้เรียนรู้และพัฒนาสุขภาวะทางปัญญา ผ่านการมีประสบการณ์ตรง (Direct Experince) ในพื้นที่อบอุ่นและปลอดภัย (Warm & Safe)

ดำเนินงานโดย มูลนิธิสหธรรมิกชน (SHDM Foundation) โครงการขับเคลื่อนสังคมแห่งการตื่นรู้สู่หนึ่งเดียวกัน ดำเนินงานโดย มูลนิธิสหธรรมิกชน (SHDM Foundation) ขับเคลื่อนสุขภาวะทางปัญญาร่วมกับทุกภาคส่วนของสังคม ไม่ว่าจะเป็นอินฟลูเอนเซอร์ ดารานักแสดง เซเลป คนในวงการบันเทิง ครูบาอาจารย์ และผู้นำการเปลี่ยนแปลงในวงการต่าง ๆ ที่ทำงานหลากหลายรูปแบบ เช่น สื่อสร้างสรรค์ที่หลากหลาย การจัดกิจกรรม Workshop การจัดการเรียนรู้หลักสูตรระยะสั้น โครงการกัลปนาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตชาวนาและกลุ่มคนเปราะบาง เป็นต้น เพื่อขับเคลื่อนการตื่นรู้และสุขภาวะทางปัญญา เข้าสู่บุคคล ชุมชน องค์กรหน่วยงานในวงกว้าง

พลังงาน พลังชีวิต พลังสังคม อาหารและการปลูกจิตสำนึก สร้างทักษะชีวิตจากการกิน เท่าทันโลกภายนอกคือระบบนิเวศอาหาร โลกภายในคือความตระหนักถึงศักยภาพที่ทุกคนมี คือ พลเมืองอาหาร (Food citizenship) ที่มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงเชิงพฤติกรรมและการเปลี่ยนแปลงร่วมกัน ตระหนักถึงบทบาทการดูแลระบบอาหารร่วมกัน โครงการจิตวิญญาณอาหาร Food Spirit เป็นการทำงานกับคนรุ่นใหม่และชุมชนเมือง โดยเชื่อมโยงให้เห็นสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ ทั้งพลังงานที่ได้จากอาหาร (energy and calorie) พลังชีวิต (life force) และพลังสังคมความร่วมมือ (social food) มีใจเปิดกว้าง มีการลงมือปฏิบัติจากการเห็นและเข้าใจดั่ง ‘จักรวาลในชามข้าว’

คือ พื้นที่และสื่อกลางสร้างสรรค์บนโลกออนไลน์ ที่จะส่งต่อเรื่องราวดี ๆ ที่จะช่วยเป็นส่วนหนึ่งให้เราได้พัฒนาตนเอง เพื่อการเป็นพลเมืองดิจิทัลที่สุดเจ๋ง เท่าทันสื่อ เท่าทันตนเอง เท่าทันสังคม มีความสุขท่ามกลางสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปในทุกวินาที สนับสนุนโดย สำนักสร้างเสริมระบบสื่อและวิถีสุขภาวะทางปัญญา สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

ขับเคลื่อนหลักสูตรผู้นำกระบวนทัศน์ใหม่เพื่อให้เราได้ค้นพบ ศักยภาพที่ซ่อนเร้นและนำมารับใช้เพื่อนมนุษย์อย่างมีความหมาย และนำออกมารับใช้เพื่อนมนุษย์อย่างกว้างขวางที่สุด รู้จักและรักตนเป็น และสมัครใจฝึกฝนตนเอง รู้จักสุนทรียและความรัก กัลยาณมิตรเพื่อก้าวสู่ความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ยิ่งๆขึ้นไป รู้จักคิดอย่างมีวิจารณญาณ ช่างคิด ช่างฟัง ช่างอ่าน ช่างฝัน คิดได้ลึกซึ้ง มองหลายมุมได้, รู้เท่าทันสังคมที่เราอยู่ และหาทางเปลี่ยนแปลงให้มันน่าอยู่ขึ้น รู้จักและกล้าตัดสินใจ ด้วยความรู้และข้อมูลอย่างเพียงพอ รักและรู้จักอนุรักษ์วัฒนธรรมอย่างเลือกสรร และสิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืน และร่วมปฏิบัติการ สร้างสรรค์สังคมสุขภาวะในพื้นที่เครือข่ายของตนเองได้

“ถ้ามีเงินสองบาท เราจะใช้หนึ่งบาทซื้อข้าว อีกหนึ่งบาทซื้อดอกไม้ สิ่งแรกจะให้ชีวิต สิ่งหลังจะเป็นเหตุผลให้อยากมีชีวิตต่อไป” นี่คือหัวใจของพวกเรา “ชูใจ กะ กัลยาณมิตร” เอเจนซี่โฆษณาที่พยายาม ทำโฆษณามากกว่าการขายของ นั่นคือการได้ทำประโยชน์ให้กับผู้คนในสังคมด้วย แต่แน่นอนว่าลำพังทีมงานไม่กี่คน ก็คงสร้างการเปลี่ยนแปลงได้ไม่มากนัก เพราะเราเองต้องพึ่งพาหัวจิตหัวใจจากกัลยาณมิตรมากมาย และคุณเองก็คือคนๆนั้น กัลยาณมิตรของเราที่อยากจะชวนมา ช่วยกันปลูกดอกไม้ในหัวใจคนไปด้วยกัน